เจ้าหน้าที่ของภาครัฐปราบปรามการแพร่ระบาดของยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมาย

กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191
ตามนโยบายของรัฐบาลให้เจ้าหน้าที่ของภาครัฐปราบปรามการแพร่ระบาดของยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมาย

เนื่องจากการแพร่ระบาดของยาเสพติดซึ่งเป็นภัยคุกคามและอาชญากรรมต่างๆที่เกิดขึ้นในสังคมปัจจุบันได้สร้าง
ผลกระทบต่อประชาชน และสร้างความเสียหายให้แก่ประเทศชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์
สุขวิมล ผบ.ตร. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพชร รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผช.ผบ.ตร.ได้มอบนโยบายให้
เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งรัดติดตามจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดอย่างจริงจัง
กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ กองบัญชาการตำรวจนครบาล โดย
พล.ต.ต.วรวิทย์ ญาณจินดา ผบก.สปพ., พ.ต.อ.พิทักษ์ สุทธิกุล, พ.ต.อ.วรศักดิ์ พิสิษฐบรรณกร, พ.ต.ท.กรกฎ
โปชยะวณิช, พ.ต.อ.เด่นหล้า รัตนกิจ, พ.ต.อ.อาวุธ อุดมรัตน์, พ.ต.อ.อภิฌาณ สวัสดิบุตร, พ.ต.อ.ธนากร อ่อนทองคำ
รอง ผบก.สปพ., พ.ต.อ.วสันต์ ธวัชชัยวิรุตษ์ ผกก.สายตรวจ, พ.ต.ท.คงศักดิ์ ศรีโหร,พ.ต.ท.วสุเทพ ใจอินทร์,
พ.ต.ท.ศตวรรษ คนชุม, พ.ต.ท.ไพบูลย์ สอโส รอง ผกก.สายตรวจฯ พ.ต.ต.ณัฐดนัย บำรุงศรี สว.งานสายตรวจ 2
กก.สายตรวจ ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติดังนี้
“ 191 จับหนุ่มค้ายารายใหญ่ พร้อมคดีติดตัวร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด ”

จับกุมผู้ต้องหา
นายณัฐวุฒิ (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี
พร้อมด้วยของกลาง
1. ยาบ้า จำนวน 200,443 เม็ด
2. ยาไอซ์ จำนวน 23.85 กรัม
3. ยาอี 0.5 กรัม
โดยแจ้งข้อกล่าวหา
ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า และ
ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในหมู่ประชาชน, มีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า,ยาอีหรือเมท
แอมเฟตามีน) อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า, มีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”
สถานที่จับกุม บริเวณร้านตำลาวสาวแตก แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม.
วัน เดือน ปี ที่ตรวจค้น/จับกุม วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 เวลาประมาณ 22.17 น.
พฤติการณ์กล่าวคือ ก่อนจับกุมในคดีนี้เจ้าพนักงานตำรวจงานสายตรวจ ๒ กก.สายตรวจ ได้ทำ การสืบสวนหาข่าว
การกระทำความผิดเกี่ยวกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ได้รับแจ้งจากสายลับว่า สามารถติดต่อสั่งซื้อยา
เสพติดได้เป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจงานสายตรวจ2จึงทำการนัดล่อซื้อยาเสพติดดังกล่าว จากนั้นจึงได้รายงาน
ให้กับผู้บังคับบัญชาทราบและผู้บังคับบัญชาได้สั่งการให้สืบสวนติดตามดำเนินการจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินการ
ตามกฎหมายต่อไป
PRESS RELEASE
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการติดต่อล่อซื้อยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน จำนวน 200,000 เม็ด ใน
ราคา 1,250,000 บาท และสถานที่นัดรับและส่งมอบเงินในวันที่ บริเวณตลาดนัดเรียบด่วนรามอินทรา แขวงท่าแร้ง
เขตบางเขน กทม. ต่อมาวันนี้ (29 ก.พ. 67) เวลาประมาณ 22.17 น. นายณัฐวุฒิ (สงวนนามสกุล) ได้เดินทางมาพบ
กับสายลับเพื่อที่จะได้ทำการรับเงินจากสายลับเผื่อให้เป็นการชำระค่ายาเสพติดที่ได้สั่งซื้อไว้หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่
ตำรวจจึงได้แสดงตัวเข้าจับกุมแจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิให้ทราบ และต่อจากนั้นได้นำตัวนายณัฐวุฒิไปค้นห้องพักย่าน
วัชรพล ผลการตรวจค้นพบ ของกลางเป็นยาไอซ์และอี พร้อมด้วยเครื่องกระสุนปืนเป็นจำนวนมากและจากการ
ตรวจสอบประวัติพบว่านายณัฐวุฒิเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับคดีสำคัญเกี่ยวกับยาเสพติดของศาลจังหวัด
นครศรีธรรมราช ในข้อหาสมคบกันเพื่อการกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการ
จับกุมตัว และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.น ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
************************
หากประชาชนท่านใด พบเห็นหรือมีเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทาง
เทคโนโลยี หรือสิ่งของผิดกฎหมาย โซเชียลมีเดีย สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ กองบังคับการสายตรวจและ
ปฏิบัติการพิเศษ สายด่วน 191, เพจสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ
ที่มา : กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (191)

 

ขอบคุณเครดิตภาพข่าว//ข่าวภูมิภาค

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ร้อง ก.ร.ตร. นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนกรณีกล่าวหา พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.กับพวกรวมถึงเครือข่ายอาจเกี่ยวข้องกับการเรียกรับผลประโยชน์และซื้อขายตำแหน่งข้าราชการตำรวจกองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 4 สังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมี พล.ต.ท.สรศักดิ์ เย็นเปรม ประธานคณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ ก.ร.ตร.เป็นผู้รับเรื่อง​ที่สำนักงานจเรตำรวจแห่งชาติ นายอัจฉริยะ กล่าวว่า พยานหลักฐานเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงการซื้อขายตำแหน่งและการชำระเงินระหว่างผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างชัดเจน ได้แก่ ข้อมูลของ น.ส.จุฑาทิพย์ ซึ่งมีประวัติเคยถูกออกหมายจับในคดีฉ้อโกง และถูกอ้างว่าใกล้ชิดบุคคลสำคัญที่อาจระคายเคืองสถาบันฯ อีกทั้งรายละเอียดการซื้อขายตำแหน่งระดับผู้กำกับ พร้อมหลักฐานการชำระเงิน ข้อความแชทไลน์ของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ที่เกี่ยวข้องกับการเลื่อนตำแหน่งแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจกองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 4 ภาพแชทไลน์เกี่ยวกับการซื้อกระเป๋าแบรนด์เนม นาฬิกาหรู และผ้าไหมให้กับภรรยา รวมถึงไฟล์คลิปเสียง พร้อมร้องขอให้ ก.ร.ตร. ดำเนินคดีกับ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ และ น.ส.จุฑาทิพย์ พร้อมพวกในเครือข่าย ซึ่งการร้องเรียนในครั้งนี้มุ่งกล่าวโทษว่าการกระทำของบุคคลกลุ่มดังกล่าวเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา พระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 มาตรา 87 พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 พระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยได้ร้องขอให้มีการดำเนินคดีทั้งมาตรการทางอาญา และมาตรการทางแพ่ง (ปปง.ยึดทรัพย์) ในวันที่ 26 พ.ย. 68 เตรียมเปิดเผยชื่อและนามสกุลจริง ของบุคคลที่เกี่ยวข้องต่อหน้าคณะกรรมาธิการ โดยยืนยันว่าไม่เกรงกลัวต่อการถูกฟ้องร้องคดีหมิ่นประมาท พร้อมทั้งกล่าวให้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ออกมาชี้แจงกรณีแชทไลน์ที่ถูกเปิดเผย ว่าไม่ใช่แชทไลน์ของตนและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ น.ส.จุฑาทิพย์ นายอัจฉริยะ ฝากถึง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยว่า ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ 25 พ.ย. 68 เวลา 10.00 น. จะเดินทางไปยื่นหนังสือที่กระทรวงมหาดไทย เพื่อให้มีคำสั่ง ย้าย พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พ้นจาก ผบ.ตร. หากนายอนุทินยังไม่ดำเนินการโยกย้าย ผบ.ตร. นายอัจฉริยะจะดำเนินการยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อดำเนินคดีกับนายอนุทิน ฐานเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามมาตรา 157 นายอัจฉริยะ กล่าวเปิดโปงเรื่องภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ที่จีนเทาจ้างนางแบบต่างประเทศเข้ามามีเพศสัมพันธ์ในเรือนจำว่า ตนไม่คิดว่าจะกล้าจัดฮาเร็ม ในห้องทำงานของผบ.เรือนจำ เพราะพื้นที่ของเรือนจำพิเศษกรุงเทพมีคำว่าพิเศษ การที่จัดให้มีสาวๆส่งตรงมาจากเมืองนอก และมาบำเรอกามให้นักโทษจีน หรือนักโทษวีไอพี ไม่ใช่แค่ตัวผู้ต้องหาแต่อาจจะมีผู้คุมหรือใครบางคนที่อยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพอาจจะร่วมเพศสัมพันธ์ด้วย ตนทราบข้อมูลเชิงลึก และมีการขยายผลไปมันจะมีอีกหลายเรื่องที่ตามมาการที่ตนเคยเข้าไปในเรือนจำพิเศษกรุงเทพ การที่จะเอานักโทษออกมาจากเรือนจำในวันอาทิตย์ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเขาจะต้องเบิกตัวตามขั้นตอนต่างๆ ซึ่งการที่มีนางแบบบริการทางเพศนำมาจากต่างประเทศ และนำเข้าห้องของผู้บัญชาการเรือนจำเรื่องนี้ไม่ยาก แต่การที่นำลงมาไปอยู่ในห้องเชือด ให้นักโทษมีเพศสัมพันธ์เป็นเรื่องที่ร้ายแรงมาก และเป็นเรื่องที่อัปยศอดสูที่สุดในสถานที่กักขังผู้ต้องหา ทั้งที่อยู่ระหว่างการดำเนินคดีมองว่าควรจะย้าย หรือไม่ก็ต้องไล่ออกจากข้าราชการ และต้องติดคุกด้วย เราต้องทำความจริงให้ปรากฏ ในเรือนจำมีกล้องวงจรปิดการที่จะเข้าออกหาหลักฐานได้ไม่ยาก และเรื่องนี้เป็นเรื่องที่บัดซบมากๆพูดไปที่ไหนก็อาย ไม่ได้มีเฉพาะวงการตำรวจ มีทุกวงการในขณะนี้เรากำลังทำความสะอาดบ้านเมือง คิวต่อไปจะเป็นกรมศุลกากรที่มีการเรียกรับสินบนเป็น พันล้านบาทต่อเดือน ทำให้รัฐบาลเสียหายจากการไม่ได้รับภาษีมากกว่าแสนล้านบาทต่อปี โดยเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรหลายด่าน ที่เรามีหลักฐานอยู่ในมือ รวมถึงอธิบดีกรมศุลกากรบางคนที่เรามีหลักฐานเส้นทางการเงินไปถึง และอยู่ในมือของ ปปช. แล้ว บางส่วน และย้ำว่าทุกวงการตอนนี้ถ้าให้เปิดเรื่องมีแต่เรื่องสกปรก แม้กระทั่งสำนักงาน ปปง. เรามีสมุดเล่มแดงเล่มหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการบริการคนจีนสีเทาตั้งแต่สมัยตู้ห่าว และมีการจัดปาร์ตี้อยู่ที่สำนักงานปปง. เราจะไล่ทีละหน่วยงานในปี 2569 จะเป็นปีที่ล้างบางระบบข้าราชการทุกแห่งในประเทศไทยที่มีการทุจริต และอยากจะฝากถึงนาย อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ว่าตนยินดีร่วมมือกับนายกรัฐมนตรีในการปราบปรามการทุจริต ซึ่งเรามีชื่อ มีข้อมูล มีภาพถ่าย มีหลักฐานครบถ้วนทุกหน่วยงาน ถ้าหากท่านอยากได้เอาไปใช้ในการบริหารประเทศในการปราบปรามทุจริต และมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องทำ
หวิดดับ​ ด.ต.ควบ​ จยย.คุมรถผู้ต้องขังพบอุบัติเหตุเบรคไม่ทันพุ่งชนท้ายรถเรือนจำที่คุมมาได้รับบาดเจ็บ
เปิดยุทธการ “ตัดหมอกเวียงแหง” ล้างบางเจ้าหน้าที่รัฐ ภัยความมั่นคง คนต่างด้าวสวมสิทธิทำบัตรประชาชน

ข่าวน่าสนใจ

Copyright © 2023 สํานักข่าวภูมิภาค.com All rights reserved.