เตือนภัยล้งรับซื้อทุเรียนระวังเจอทุเรียนทิพย์ – เจ้าของล้งทุเรียนชุมพร เดือดร้อนหลังถูกมิจฉาชีพสาวแสบหลอกลวงกว่า10ครั้ง โดนหลอกให้โอนเงินค่ามัดจำตัดทุเรียนจนสูญเงินกว่า 2ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก น.ส.มนัสนันท์ ทอดพระเนตร โดยผู้เสียหายเล่าว่า สาวแสบคนนี้เป็นชาว อ.หลังสวน จ.ชุมพร ใช้กลอุบายนำทุเรียนมาขายให้เป็นประจำจนเกิดความสนิทสนม และอ้างตัวเป็นผู้รับจ้างตัดทุเรียนจากหลายๆสวนแล้วจะนำมาส่งที่ล้งทุเรียนของผู้เสียหาย โดยได้มีการนัดพาผู้เสียหายไปดูสวนทุเรียน 3สวน พบว่าเป็นเจ้าของสวนตัวจริง และได้มีการตกลงทำการซื้อขายกัน ต่อมาประมาณ 2 อาทิตย์ สาวแสบรายนี้ได้นำเอกสารสัญญาซื้อขาย -วางมัดจำผลไม้เพื่อการส่งออก ซึ่งเขียนรายละเอียดสัญญาผู้ซื้อ-ผู้ขาย โดยลงลายมือชื่อระหว่างสาวแสบและเจ้าของสวน แล้วนำเอกสารสัญญาดังกล่าวมาให้กับทางเจ้าของล้งทุเรียนของผู้เสียหาย
จากนั้นเจ้าของล้งทุเรียนได้ทำการโอนเงินค่ามัดจำในการตัดทุเรียนให้กับสวนตามสัญญา จำนวน 200,000 – 300,000 บาท โดยสาวแสบได้กระทำการรูปแบบดังกล่าวมา 11 ครั้ง 11 สัญญา ซึ่งแต่ละสัญญานั้นเจ้าของสวนจะไม่ใช่คนเดียวกันและไม่ซ้ำกัน
หลังจากเจ้าของล้งทุเรียนได้โอนเงินค่ามัดจำไปในระยะเวลา 4 เดือน มีเพียงเจ้าของสวน 3 รายแรกที่ทางผู้เสียหายได้ลงพื้นที่ไปดูสวนเองและได้ตัดทุเรียนและนำมาส่งที่ล้งของผู้เสียหาย แต่สวนที่เหลือที่มีการทำสัญญากันไว้ไม่มีการตัดทุเรียนและนำมาส่งเลย ทำให้เจ้าของล้งทุเรียนติดตาอหาสาวแสบรายนี้อยู่บ่อยครั้งเพื่อถามถึงเงินมัดจำที่ได้โอนให้กับแต่ละสวนก่อนหน้านี้ แต่ไหนกลับไม่มีทุเรียนมาส่ง โดยสาวแสบรายนี้ตอบกลับมาว่า “เจ้าของสวนทุเรียนแต่ละสวนจะเก็บทุเรียนไว้ขายเองและจะโอนเงินค่ามัดจำคืนให้ แต่ก็ยังไม่ได้โอนเงินค่ามัดจำมาให้
ด้านเจ้าของล้งทุเรียน รอเวลาไปจนกระทั่งสัญญาหมดอายุ กำหนดเวลา4เดือน จึงได้ติดต่อไปตามเบอร์ของแต่ละสวนตามรายละเอียดในสัญญา จึงได้ทราบว่า เจ้าของสวนแต่ละสวนได้ทำการโอนเงินมัดจำคืนกับสาวแสบไปเกือบทุกรายแล้วและมีเพียงรายเดียวที่ขณะนี้ยังติดต่อไม่ได้ ซึ่งจุดนี้ก็ทำให้เจ้าของล้งทุเรียนมั่นใจว่า ถูกสาวแสบรายนี้โกง จึงได้ไปแจ้งความที่ สภ.หลังสวน จ ชุมพร เมื่อวันที่ 2 ม.ค.66 เวลา 20.04 น. เพื่อดำเนินคดีกับหญิงสาวคนนี้ ต่อมา ร.ต.อ.เติม สอนสังข์ รอง สว.สส.สภ.หลังสวน ได้มีหมายเรียกสาวแสบไป 2 ฉบับ ไปจนได้ทำการออกหมายจับสาวแสบเมื่อวันที่ 25 ก.ค.66 และจับกุมสาวคนดังกล่าวได้เมื่อวันที่ 4 ส.ค.66
โดยสาวแสบได้ติดต่อมาหาผู้เสียหายว่า ตนได้ถูกจับตามหมายแล้ว และขอให้ผู้เสียหายช่วยเหลือในการถอนแจ้งความให้คดียุติและบอกว่าจะหาเงินมาผ่อนชำระให้ผู้เสียหายทั้งหมด แต่ผู้เสียหายนั้นไม่ยอมความและขอให้ตำรวจ สภ.หลังสวน ดำเนินคดี ต่อมาตำรวจ สภ.หลังสวน ได้ส่งฟ้องอัยการ และอัยการได้สั่งให้ตำรวจเจ้าของคดีสอบพยานเพิ่ม ซึ่งผู้เสียหายเห็นว่า การสอบพยานเพิ่มนั้นแสดงว่า ตำรวจสอบปากคำไม่ครบถ้วน จึงได้มาร้องขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชน
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่จังหวัดชุมพร เพื่อพบกับพล.ต.ต.ภาณุเดช ณ พัทลุง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร เพื่อสอบถามถึงคดีทุเรียนทิพย์ โดยเผยว่า คดีดังกล่าวได้ดำเนินคดีให้กับผู้ร้องได้ทันกำหนดเวลาอย่างแน่นอน ซึ่งหลังจากนี้ยังมีผู้ต้องสงสัยอีกสองรายที่มีหมายเรียกไปแล้วถึงสองครั้งแต่ไม่มาให้สอบปากคำ ซึ่งทางพนักงานสอบสวนก็เตรียมออกหมายจับแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาที่ทำให้ผู้เสียหายเกิดความสงสัยเพราะเหตุว่าการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้นแต่เกรงจะหมดอายุความการสอบสวน จึงต้องส่งสำนวนไปให้อัยการก่อนแล้วค่อยสอบเพิ่มในภายหลัง พร้อมทั้งฝากเตือนผู้ประกอบการล้งทุเรียนว่าก่อนที่จะหลงเชื่อผู้ที่จะมาทำสัญญาซื้อขายทุเรียนให้หาคนกลางที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ว่าจะเป็น เกษตรจังหวัด เกษตรอำเภอ หรือ มาประสานกับผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชุมพรได้โดยตรง เพื่อจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อ
ตลอดจน ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ทางเจ้าของล้งได้เล่าว่า มีล้งทุเรียนผู้เสียหายอีกหลายแห่งที่เคยถูกหลอกลวงในลักษณะนี้จนต้องสูญเงินจำนวนมากเช่นกัน
ขอบคุณเครติดภาพข่าว
ทีมข่าวสำนักข่าวภูมิภาค