ม้ามืดทางการเมือง มุ่งสู่เก้าอี้นายกรัฐมนตรี
ดร.ทรรศชล พงษ์ภควัต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2567 เวลา 16.30 น ดร.ทรรศชล พงษ์ภควัต อดีตแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพ.ศ.2562 และอดีตหัวหน้าพรรคสหประชารัฐ ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักนักข่าวภูมิภาค ถึงการกลับมาสู่เส้นทางการเมืองอีกครั้ง การเดินหน้านำพาประเทศไทยให้ก้าวสู่ระดับสากลต่อการพัฒนาด้านต่างๆ ในทุกมิติเข้าสู่เวทีการแข่งขันอีกครั้งเราได้เสียโอกาสมานานแล้วประเทศไทยนั้นสมควรอยู่ในระดับต้นๆของการพัฒนาในภูมิภาคเอเชีย แต่มุมกลับกันเรายังติดกับดักของเราเองจึงทำให้เกิดการพัฒนาที่ช้ากว่าคู่แข่งขันในด้านเศษฐกิจ
การกลับเข้ามาการเมืองครั้งนี้มีความตั้งใจที่จะนำความรู้ความสามารถมาช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบปัญหาด้านภาวะทางสภาพเศรษฐกิจที่ถดถอยของภาคประชาชน รวมถึงทางด้านสังคมและการเมือง การวางแผนด้านยุทธศาสตร์ชาติที่ไม่มีเสถียรภาพขาดการสานต่ออย่างจริงจัง กลับมาทำให้สมบูรณ์บูรณาการทุกภาคส่วนมาร่วมกันเพื่อให้แผนยุทธ์ศาสตร์ชาติที่สมบูรณ์เหมาะสมกับประเทศไทยพร้อมสำหรับการแข่งขันกับต่างประเทศได้ในทุกมิติ ทำให้การฟื้นฟูพัฒนาประเทศเกิดการพัฒนาต่อเนื่องให้ประเทศชาติได้เดินหน้าไปสู่แนวทางที่ถูกต้องของประเทศ การมองในทิศทางความสามารถของแข่งขันกับต่างชาตินั้นด้วยโครงสร้างของประเทศที่เรามี การส่งเสริมสนับสนุนในการสร้างโอกาส สร้างการเรียนรู้ สร้างการส่งเสริมพัฒนา สร้างโอกาสทางการศึกษาให้เป็นระดับสากลส่งเสริมยกระดับทักษะภาษาที่เหมาะสม 5 ภาษา การสร้างศูนย์ DATA CENTER HUP สู่ศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัล(Digital Economy Hup) ศูนย์ข้อมูลโครงข่ายสัมพันธ์อย่างครบวงจรต่อสร้างอนาคตให้กับประเทศให้ได้เดินหน้านำพาสู่การส่งเสริมพัฒนาในทุกมิติ ด้วยการวางแผนนโยบายการยกระดับการพัฒนาประเทศชาติที่ครอบคลุมให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน ประชาชนนั้นมีส่วนร่วมกับทุกภาคส่วนด้วยการสนับสนุนโดยรัฐบาล การเพิ่มกองทุนความมั่นคงแห่งชาติให้ครอบคลุมมากขึ้น ส่งเสริมพัฒนายกระดับสวัสดิการแห่งรัฐให้ประชาชนครอบคลุมทุกมิติมากขึ้น ให้การส่งเสริมพัฒนาเทคโนโลยี ระบบAI นำมาใช้ ยกระดับภาคอุตสาหกรรมให้เป็นอุตสาหกรรมครบวงจรแห่งเอเชีย รวมถึงทางด้านนโยบายต่างๆ ที่มีผลต่อการพัฒนายกระดับของประเทศไทย เพื่อให้นโยบายของรัฐบาลครอบคลุมระหว่างคุณภาพชีวิตประชาชนและการพัฒนายกระดับประเทศสู่ประเทศที่พัฒนาแล้ว
ดร.ทรรศชล พงษ์ภควัต ได้กล่าวเพิ่มเติมถึงในฐานะว่าผู้ที่จะอาสาเข้ามาบริหารบ้านเมืองประเทศชาติ โดยเน้นแนวคิดการให้ความสำคัญในการมีส่วนร่วมของประชาชนมากที่สุด ภาคธุรกิจต่างๆให้มีส่วนร่วมกันการวางแผนเดินหน้าไปพร้อมกันที่ว่า นโยบายของประชาชนคือนโยบายของรัฐบาล ด้วยการบริหารประเทศชาติสมัยใหม่ที่ไม่ทิ้งไครไว้ข้างหลังเดินไปพร้อมกัน ให้มีความมั่นคงเกิดการพัฒนาต่อเนื่องให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางลงทุนของนักลงทุน การสนับสนุนส่งเสริมการสร้างโอกาสธุรกิจใหม่ๆ ตามยุทธศาสตร์ชาติที่วางไว้ เพื่อนำสู่เป็นประเทศชาติที่พัฒนาแล้วให้อยู่ในระดับสากลที่นานาชาตินั้นยอมรับ
ทีมข่าวการเมือง
สำนักข่าวภูมิภาค
รายงาน