ชาวบ้านร้องนายอำเภอบ้านโคก “สอบผู้ใหญ่บ้าน คนบาป” สงสัยทุจริต! อมเงินบริจาควัด เงินค่าน้ำประปา เงินเยียวยาโควิด เงินบุญกองข้าวเปลือกและเงิน อพป. ทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพล ข่มขู่ ข่มเหง รังแกชาวบ้าน เรียกร้องให้ลาออกพร้อมคืนเงินวัด นัดรวมตัวกันวันพรุ่งนี้ที่อำเภอ ไม่ได้ผลจ่อบุกศาลากลางจังหวัดพบพ่อเมืองฯ

ชาวบ้านร้องนายอำเภอบ้านโคก “สอบผู้ใหญ่บ้าน คนบาป” สงสัยทุจริต! อมเงินบริจาควัด เงินค่าน้ำประปา เงินเยียวยาโควิด เงินบุญกองข้าวเปลือกและเงิน อพป. ทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพล ข่มขู่ ข่มเหง รังแกชาวบ้าน เรียกร้องให้ลาออกพร้อมคืนเงินวัด นัดรวมตัวกันวันพรุ่งนี้ที่อำเภอ ไม่ได้ผลจ่อบุกศาลากลางจังหวัดพบพ่อเมืองฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2567 ที่บริเวณสำนักสงฆ์ ล้านช้าง (วัดพระบรมธาตุล้านช้าง) ต.ม่วงเจ็ดต้น อ.บ้านโคก จ.อุตรดิตถ์ นางเสวียน บุตรที ส.อบต. ม่วงเจ็ดต้น พร้อมด้วยชาวบ้าน กล่าวว่า สำนักสงฆ์ล้านช้างแห่งนี้ มีอายุกว่า 40 ปี มีเนื้อที่เกือบ 20 ไร่ อยู่ระหว่างการขออนุญาตเป็นวัดพระบรมธาตุล้านช้างกับทางสำนักพุทธศาสนาจังหวัดอุตรดิตถ์ และอยู่ในระหว่างการพัฒนาสถานที่ให้มีความเหมาะสม สำหรับใช้เป็นสถานที่เผยแผ่และสืบทอดพระพุทธศาสนาให้มีความยืนยาว ด้วยการพัฒนาด้านสาธารณูปการโดยรอบของสถานที่แห่งนี้ สร้างและบูรณปฏิสังขรณ์ศาสนสถาน ให้มีความสอดคล้องกับชุมชนและวิถีชีวิตของคนในชุมชนให้ดีขึ้นจำเป็นต้องสร้างถาวรวัตถุ อาทิ เช่น พระพุทธรูปหรือองค์พระ จำนวน 42 องค์ พระแลล้านช้าง บันไดพญานาค กุฏิที่พักสงฆ์ ศาลาการเปรียญ และ พระบรมธาตุเจดีย์ พร้อมปรับภูมิทัศน์รอบพื้นที่ให้มีความเหมาะสม เพื่อใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมหรือใช้ร่วมกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา มีชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียงและต่างจังหวัดร่วมกันสมทบทุนและบริจาคเงินในพัฒนาพัฒนาที่พักสงฆ์ให้มีความเหมาะสมแก่การพัฒนาเป็นวัด ชาวบ้านได้ยื่นเรื่องขออนุญาตเจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์และสำนักพุทธศาสนาจังหวัดอุตรดิตถ์


โดยมีคณะศรัทธาพร้อมด้วยชาวบ้าน ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น ร่วมแรงร่วมใจกันพัฒนาสำนักสงฆ์(วัด)แห่งนี้ ชาวบ้านมอบหมายผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่งเข้ามาดูแลรักษาผลประโยชน์ เนื่องจากมีฐานะเป็นผู้ปกครองท้องที่ ทั้งเรื่องการรับบริจาคเงินและดูแลเก็บรักษาเงินจากผู้ใจบุญ รวมถึงทำสัญญาการก่อสร้างองค์พระพุทธรูปและตกแต่งเมรุ ให้เป็นผู้เก็บรักษาเงินและดำเนินการแทนชาวบ้าน ต่อมาชาวบ้านตรวจพบว่ามีเงินหายไป จำนวน 110,000 บาท ผู้ใหญ่บ้านยอมรับผิดว่า นำเงินไปใช้และยินดีผ่อนจ่ายคืนให้ โดยผ่อนจ่ายงวดแรกเป็นเงินจำนวน 36,666 บาท ส่วนที่เหลือได้ทำสัญญากับชาวบ้าน โดยรับผิดชอบทำองค์พระให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน 2566 จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่แล้วเสร็จ ถือเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา

จากด้วยพฤติกรรมดังกล่าว ชาวบ้านจึงรวมตัวกันทำหนังสือถึงนายวันชัย เกตุแก้ว นายอำเภอบ้านโคก ให้มีการตรวจสอบการทุจริตต่อหน้าที่ของผู้ใหญ่บ้านรายละเอียดดังนี้ 1.การรับเงินบริจาคก่อสร้างองค์พระรอบสำนักสงฆ์(วัด) 2.เงินบริจาคของชาวบ้านภายในหมู่บ้านเพื่อเทพื้นหน้าเมรุ ผู้ใหญ่บ้านเก็บเงินไปแล้ว โดยไม่ดำเนินการใดเลย ไม่มีการชี้แจงยอดจำนวนเงินที่ได้รับบริจาค ทั้งหมดได้มาเท่าไหร่ ใช้จ่ายแล้วเงินเหลือเท่าไหร่ เก็บเอาไว้แต่เพียงผู้เดียวและไม่เคยชี้แจงให้ชาวบ้านทราบ 3.เงินค่าน้ำประปา ไม่มีการชี้แจงให้ชาวบ้านรับรู้ ยอดเงินเก็บได้เท่าไหร่ ใช้จ่ายเท่าไหร่ เหลือเท่าไหร่ 4.เงินเยียวยาโควิดโครงการของรัฐบาลที่ขอมาช่วยเหลือชาวบ้าน รับมาเท่าไหร่ ใช้จ่ายส่วนใดบ้าง 5.เงินทำบุญกองข้าวเปลือกตามประเพณีของทุกปี มีการเก็บรวบรวมเงินเอาไว้เอง โดยทางวัดและคณะกรรมการไม่มีส่วนรู้เห็น ได้เงินจำนวนเท่าไหร่ ใช้จ่ายไปเท่าไหร่และเหลือเท่าไหร่ ไม่เคยชี้แจงให้ชาวบ้านทราบ สุดท้าย 6.เงินหมู่บ้านอาสาพัฒนาป้องกันตนเอง (อพป.) ของชุมชนในหลายปีที่ผ่านมา ชาวบ้านต้องการให้ชี้แจงพร้อมตรวจสอบบัญชี โดยขอให้ทางอำเภอตรวจสอบ หากพบความผิดทางวินัยและเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ ให้ดำเนินการเอาผิดทางวินัยและการทุจริตต่อหน้าที่ราชการกับผู้ใหญ่บ้านคนนี้ด้วย เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างกับผู้อื่น พร้อมแจ้งผลการพิจารณาโทษให้ชาวบ้านทราบ

ทั้งนี้ ผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวยังมีพฤติกรรม แสงตัวเป็นผู้มีอิทธิพลข่มขู่ข่มเหงและรังแกชาวบ้าน แทนที่จะเข้ามาช่วยเหลือดูแลชาวบ้านให้เกิดความผาสุก แต่กลับสร้างปัญหาและสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นภายในหมู่บ้าน เรียกร้องให้ปลดออก-ไล่ออก เนื่องจากไม่มีความเหมาะสมเป็นผู้ใหญ่บ้านอีกต่อไป

นายวันชัย เกตุแก้ว นายอำเภอบ้านโคก กล่าวว่า ทางอำเภอได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านให้มีการตรวจสอบการทุจริตของผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวแล้ว เบื้องต้นได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เชิญผู้ร้องและผู้ถูกร้องมาไกล่เกลี่ยกันถึง 2 ครั้งแต่ไม่สำเร็จ จึงยุติการไกล่เกลี่ย และให้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย กรณีที่กระทำความผิดตามกฎหมาย ในส่วนของอำเภอก็ดำเนิน การสอบข้อเท็จจริงตามอำนาจหน้าที่ หากพบว่ามีความผิดทางวินัย ก็จะดำเนินการเอาผิดทางวินัยทันที พร้อมแจ้งผลการสอบสวนเอาผิดทางวินัยให้ชาวบ้านรับทราบต่อไป


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 25 ธันวาคม 2567 (วันพรุ่งนี้) ชาวบ้านได้เตรียมนัดรวมตัวกันที่อำเภอบ้านโคก เพื่อรับฟังผลความคืบหน้ากับนายอำเภอบ้านโคก กรณีที่ได้ยื่นหนังสือให้มีการตรวจสอบการทุจริตของผู้ใหญ่บ้านไปแล้ว เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา หากพบว่าทางอำเภอประวิงเวลาเพื่อช่วยเหลือผู้ใหญ่บ้าน ชาวบ้านทุกคนจะรวมตัวกันไปที่ศาลากลางจังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมต่อผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ให้เข้ามาดำเนินการในเรื่องนี้โดยตรง ผู้ใหญ่บ้านทุจริต พฤติกรรมไม่โปร่งใสและการสร้างอิทธิพลรังแกชาวบ้านจะปล่อยไว้ทำไม.

ทีมข่าวภูมิภาค
รายงาน

Copyright © 2023 สํานักข่าวภูมิภาค.com All rights reserved.