น่าน – ชาวบ้านร้องสื่อ พระวัดดัง ขับรถมาหาสีกา ยามตะวันลับฟ้า ให้สื่อฯช่วยตรวจสอบ
ชาวบ้านฝายแก้ว ต.ฝายแก้ว อ.ภูเพียง จ.น่าน นำพา สื่อมวลชนลงพื้นที่สำรวจและให้ข้อมูลเกี่ยวพฤติกรรมของพระรูปหนึ่ง วัดชื่อดังในจังหวัดน่าน ขับรถเก๋งสีดำเข้าไปในบ้านท้ายซอยเป็นประจำเกือบทุกวัน ตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายน 2566 จนถึงล่าสุดเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยชาวบ้านสุดทน จึงได้แอบซุ่มถ่ายรูป และบันทึกคลิปวีดีโอ จากบ้านซึ่งอยู่ติดกันและบริเวณใกล้เคียงเพื่อเป็นหลักฐาน สามารถถ่ายภาพได้ขณะที่พระรูปดังกล่าวขับรถเก๋งสีดำผ่านบ้านของตนเองเข้าไปจอดยังบ้านหญิงสาว เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมาเวลาประมาณ 18.38 น. พระรูปนี้ขับรถเข้าไปในบ้าน จากนั้นมีหญิงเจ้าของบ้านกางร่มออกมารับพากันเข้าไปในบ้านหายเงียบไปนานเกือบ3ชั่วโมง แล้วกลับออกไปช่วงค่ำคืน
นางจินต์ฯ ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงพาสื่อมวลชนไปดูบริเวณที่แอบถ่ายรูปและคลิปว่าเห็นพระรูปนี้มาหาหญิงเจ้าของบ้านเกือบจะทุกวัน แต่ละครั้งอยู่นาน 2-3 ชั่วโมง ไม่ทราบเข้าไปทำอะไรกันทั้งๆ ที่เป็นเวลาค่ำคืนยามวิกาล ไม่น่าจะถูกต้องตามวัตรปฏิบัติหรือกิจของสงฆ์ แม้ตนจะแจ้งไปยังผู้นำท้องที่ให้มาตรวจสอบดำเนินการแต่เรื่องก็เงียบไม่มีความคืบหน้าจึงร้องสื่อมวลชนให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อปกป้องพุทธศาสนาด้วย อีกอย่างหนึ่งครอบครัวนี้ไม่ได้เป็นคนในพื้นที่ แต่เพิ่งมาซื้อบ้านอยู่ที่นี่เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่าน พฤติกรรมดังกล่าวอาจสร้างความเสื่อมเสียให้หมู่บ้านและพุทธศาสนา
เช่นเดียวกับป้าอุ๊และชาวบ้านอีกหลายคนก็ให้ข้อมูลพูดเสียงเดียวกันว่า เฝ้ามองพฤติกรรมของพระรูปดังกล่าว และหญิงเจ้าของบ้านมาโดยตลอด รู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่ง ล่าสุดทางด้าน นางไลหล้าวฯ นามสมมุติ อายุ 43 ปี หญิงเจ้าของบ้านที่พระรูปดังกล่าวขับรถไปหา ออกมายอมรับว่าเป็นเรื่องจริงที่พระเดินทางมาหาตน แต่ขอยืนยันว่าไม่มีเรื่องชู้สาว แน่นอน ตนเองมีความรู้สึกเหมือนพระเป็นน้องชายคนหนึ่ง ซึ่งแต่ละครั้งที่พระมาหา จะมีแม่ตนเองก็อยู่ด้วย ซึ่งในบ้านพักนี้อยู่ด้วยกัน 2 คน คือตนเองและแม่อายุ 65 ปี ทุกครั้งที่แม่ทำอาหารเย็นเสร็จแล้วก็จะบอกให้พระมาเอาอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ และขนมเพื่อไปฉันท์ที่วัดในช่วงเช้า เมื่อพระมาถึงบ้านก็จะนั่งอยู่ด้วยกัน 3 คน (ไม่ใช่ 2-2) ตนและแม่กับพระ มีการพูดคุยและกินขนมที่เตรียมไว้เท่านั้น โดยเฉพาะแม่ตนนั้นได้ขอร้องให้พระมาเยี่ยมดูแลตอนกลางคืน เนื่องจากมีปัญหากับเพื่อนบ้านกลัวจะไม่ปลอดภัย ไม่ได้คิดเรื่องชู้สาว แต่ถ้าชาวบ้านมองเป็นอย่างนี้ตนและแม่ก็จะบอกไม่ให้พระมาอีกแล้ว และตนก็หยุดไม่ไปทำงานที่วัดดังกล่าวด้วยเพราะทางเจ้าอาวาสวัดให้หยุด และจะประกาศขายบ้านย้ายออกจากหมู่บ้านให้เร็วที่สุดเพื่อตัดปัญหาและข้อครหาต่าง ๆ
ด้านนายณัฏฐ์ปวัฒน์ ลือยศ ผู้อำนวยการพุทธศาสนาจังหวัดน่าน เปิดเผยว่า กำลังตรวจสอบรายละเอียดข้อเท็จจริงรอบด้าน เท่าที่ได้ข้อมูลเบื้องต้นและประสานไปยังผู้หลักผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับวัดนี้ และเจ้าอาวาสยอมรับว่ามีเรื่องนี้เกิดขึ้นจริง แต่ต้องให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย และจะดำเนินการไปตามระเบียบกฎหมาย ซึ่งทุกฝ่ายมิได้นิ่งนอนใจจะต้องดำเนินการให้เสร็จโดยเร็วเพื่อเป็นการปกป้องพุทธศาสนาต่อไป
สุภนันท์ภพ อินทรพัฒน์
สำนักข่าวภูมิภาค
จ.น่าน รายงาน